วัตถุประสงค์และขอบเขตของการฌาปนกิจสงเคราะห์, ข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้จ่ายและการเก็บรักษาเงิน,การยกเลิกข้อบังคับ, ข้อบังคับในส่วนที่ขัดต่อกฎหมายและวัตถุประสงค์ของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์
บันทึก เรื่อง ขอหารือการตีความการดำเนินงานการฌาปนกิจสงเคราะห์ตามพระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. ๒๕๑๗ – สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา –เสร็จที่ เรื่อง๗๙๗/๒๕๔๑
มาตรา ๔ พระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. ๒๕๔๕
(ความเห็นตามกฎหมายเดิมที่ยกเลิกไปแล้ว –พระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. ๒๕๑๗ (มาตรา ๔ มาตรา ๑๔ และมาตรา ๓๘) แต่นำมาเป็นแนวการตีความได้)
การฌาปนกิจสงเคราะห์ คือ กิจการที่บุคคลหลายคนตกลงเข้ากันเพื่อดำเนินการสงเคราะห์ซึ่งกันและกันในการจัดการศพ หรือจัดการศพและสงเคราะห์ครอบครัวของบุคคลหนึ่งบุคคลใดที่ตกลงเข้ากันนั้นซึ่งถึงแก่ความตายและมิได้ประสงค์จะหากำไรซึ่งกันและกัน ฉะนั้น วัตถุประสงค์และขอบเขตของการฌาปนกิจสงเคราะห์จึงต้องกระทำเพื่อสมาชิกเท่านั้น การที่สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์และการฌาปนกิจสงเคราะห์ทำหน้าที่รวบรวมเงินจากสมาชิกที่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อมอบให้ผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ของสมาชิกที่ถึงแก่ความตาย จึงเป็นการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของการฌาปนกิจสงเคราะห์ประการหนึ่ง
การใช้จ่ายของสมาคมเป็นเรื่องการดำเนินกิจการภายในของสมาคมซึ่งมีคณะกรรมการและสมาชิกของสมาคมเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงอยู่แล้ว ซึ่งสมาคมอาจออกข้อบังคับเกี่ยวกับการใช้จ่ายและการเก็บรักษาเงิน เพื่อให้คณะกรรมการกำหนดระเบียบเกี่ยวกับการใช้จ่ายและการเก็บรักษาเงิน ทั้งนี้ ระเบียบที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามข้อบังคับนี้จะกำหนดไว้นอกเหนือจากข้อบังคับไม่ได้ ดังนั้น การจะนำเงินของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ หรือการฌาปนกิจสงเคราะห์ไปใช้จ่ายในเรื่องอะไรได้บ้างนั้นต้องพิจารณาจากข้อบังคับเกี่ยวกับการใช้จ่ายและการเก็บรักษาเงินตามที่คณะกรรมการกำหนด
สำหรับการนำเงินของการฌาปนกิจสงเคราะห์ไปซื้อหรีดให้แก่บุคคลอื่นที่มิใช่สมาชิกจะกระทำมิได้ เพราะถือว่ามิได้กระทำอยู่ภายในขอบวัตถุประสงค์ที่กฎหมายหรือระเบียบกำหนด ส่วนกรณีค่าพวงหรีด ค่าสวดพระอภิธรรม สมทบช่วยเหลือในการจัดการศพ และค่าก่อสร้างฌาปนสถาน สำหรับสมาชิกที่ถึงแก่ความตาย จะถือเป็นการนำเงินไปใช้จ่ายนอกเหนือวัตถุประสงค์ของการดำเนินการฌาปนกิจสงเคราะห์หรือไม่ขึ้นอยู่กับข้อบังคับเกี่ยวกับการใช้จ่ายและการเก็บรักษาเงินของสมาคม
ในกรณีการยกเลิกข้อบังคับที่ขัดต่อกฎหมายและวัตถุประสงค์ของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนให้นั้นเห็นว่า นายทะเบียนย่อมมีอำนาจรับจดทะเบียนข้อบังคับเฉพาะส่วนที่ไม่ขัดต่อกฎหมายและวัตถุประสงค์ของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์เท่านั้น หากข้อบังคับบางส่วนขัดต่อกฎหมายและวัตถุประสงค์ของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์แล้ว และยังเป็นข้อความที่ปรากฏรวมอยู่กับข้อบังคับของสมาคมที่บังคับใช้นี้ เฉพาะข้อบังคับในส่วนที่ขัดต่อกฎหมายและวัตถุประสงค์ของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์เท่านั้นที่จะไม่สมบูรณ์ ส่วนข้อบังคับอื่นยังคงสมบูรณ์และใช้บังคับได้ อย่างไรก็ดี โดยที่ไม่มีบทบัญญัติใดให้อำนาจนายทะเบียนสั่งยกเลิกข้อบังคับที่ได้จดทะเบียนไว้โดยชอบเพียงบางส่วนนั้นได้ในกรณีนี้ หากนายทะเบียนเห็นว่าข้อบังคับบางส่วนนั้นไม่อาจบังคับใช้ได้ นายทะเบียนอาจเสนอแนะให้สมาคมจัดให้มีการประชุมใหญ่เพื่อแก้ไขข้อบังคับโดยยกเลิกในส่วนที่ขัดต่อกฎหมายตามมาตรา ๓๘ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
ภัทร์หทัย สังขวาสี/ผู้ย่อ
ศูนย์ข้อมูลกฎหมายกลาง/ทาน