1. กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างคืออะไร?
กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 เพื่อช่วยเหลือลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง, ลาออกจากงาน, หรือเสียชีวิต โดยที่นายจ้างไม่จ่ายค่าชดเชยหรือสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายแรงงาน ซึ่งกองทุนนี้อยู่ภายใต้การดูแลของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน โดยมีคณะกรรมการบริหารกองทุนเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางการจ่ายเงิน อย่างไรก็ตามบทความนี้ได้สรุปเกี่ยวกับกองทุนสงเคราะห์แรงงานแบบเข้าใจง่ายไว้แล้ว ไปดูกันเลย
2. สาระสำคัญกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างกำหนดให้นายจ้างและลูกจ้างต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนร่วมกัน โดยเริ่มเก็บในอัตรา 0.25% ของค่าจ้าง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ถึง 30 กันยายน 2573 และจะปรับเพิ่มเป็น 0.5% ของค่าจ้าง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2573 เป็นต้นไป
3. เงื่อนไขกิจการที่ต้องเข้ามาเป็นสมาชิกกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
3.1 กิจการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป
3.2 กิจการที่ไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือไม่มีกองทุนสงเคราะห์ในบริษัทให้แก่ลูกจ้างที่ออกจากงานหรือเสียชีวิต
3.3 หากกิจการมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ แต่มีลูกจ้างที่ยังไม่ผ่านทดลองงาน หรือไม่สมัครเข้ากองทุนนั้น นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างกลุ่มนี้เข้าเป็นสมาชิกกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
4. ข้อยกเว้นที่ไม่อยู่ในบังคับให้ลูกจ้างต้องเข้าเป็นสมาชิกกองทุน
4.1 นายจ้างที่มีลูกจ้างน้อยกว่า 10 คน
4.2 นายจ้างที่จัดให้มีการสงเคราะห์แก่ลูกจ้างตามกฎกระทรวง
4.3 นายจ้างที่จัดให้ลูกจ้างเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
4.4 กิจการบางประเภทที่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย เช่น กิจการไม่แสวงหากำไร มูลนิธิ สมาคม เป็นต้น
5. หน้าที่ของนายจ้างและลูกจ้าง
5.1 นายจ้าง: ต้องยื่นแบบฟอร์มแสดงรายชื่อลูกจ้างและรายละเอียดต่าง ๆ (แบบ สกล.3 หรือ สกล.3/1) และหากมีการเปลี่ยนแปลงต้องแจ้งโดยใช้แบบ สกล.3/2 ทั้งนี้หากนายจ้างได้ยื่นข้อมูลตามกฎหมายประกันสังคมแล้ว จะถือว่าได้ยื่นแบบ สกล. แล้วโดยไม่ต้องยื่นซ้ำ ในด้านการเงิน นายจ้างต้องหักค่าจ้างของลูกจ้างในอัตรา 0.25% เพื่อส่งเป็นเงินสะสมเข้ากองทุน และต้องสมทบเงินในอัตราเท่ากันอีก 0.25% ของค่าจ้าง รวมเป็น 0.5% ที่ส่งเข้ากองทุนในแต่ละเดือน
5.2 ลูกจ้าง: ต้องเข้าเป็นสมาชิกกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง โดยจะต้องจ่ายเงินสะสมเข้ากองทุนในอัตราร้อยละ 0.25 ของค่าจ้าง ซึ่งนายจ้างจะเป็นผู้ทำหน้าที่หักเงินจำนวนนี้จากค่าจ้างของลูกจ้าง และนำส่งเข้ากองทุนตามระยะเวลาที่กำหนด
5.3 การจ่ายเงินสะสมและเงินสมทบตามกฎกระทรวง ดังนี้
(2) ตั้งแค่วันที่ 1 ตุลาคม 2573 เป็นต้นไป จ่ายเงินสะสมของลูกจ้างและเงินสมทบของนายจ้างฝ่ายละ 0.5
6. ประโยชน์ของกองทุน
6.1 ต่อลูกจ้าง ช่วยยกระดับมาตรฐานคุ้มครอง, ส่งเสริมการออม, สร้างขวัญกำลังใจ, บรรเทาความเดือดร้อน
5.2 ต่อนายจ้าง สร้างภาพลักษณ์ที่ดี, สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในองค์กร, จูงใจลูกจ้างให้อยู่กับบริษัทนานขึ้น
7. วันที่มีผลบังคับใช้
– เริ่มใช้วันที่ 1 ตุลาคม 2568
สรุป กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายแรงงาน เพื่อช่วยเหลือลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง ลาออก หรือเสียชีวิต ในกรณีที่นายจ้างไม่จ่ายค่าชดเชยหรือสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย โดยอยู่ภายใต้การดูแลของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และมีคณะกรรมการบริหารกองทุนเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเงิน ทั้งนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
ที่มา: https://www.humansoft.co.th/en/blog/employee-welfare-fund